วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561

6.การสร้างตารางข้อมูลเปรียบเทียบตัวแปรสองตัวแปร

        คล้ายกับการสร้างตารางข้อมูลเปรียบเทียบค่าตัวแปรตัวเดียว แต่จะมีการเปรียบเทียบตัวแปรเข้าไปอีกหนึ่งตัวแปร ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้พร้อมๆกัน

ตัวอย่าง ถ้านางหงส์ฟ้าต้องการทราบว่าจะต้องผ่อนชำระค่าอาคารชุดเดือนละเท่าใด อัตราดอกเบี้ยและราคาอาคารชุดที่จะซื้อเปลี่ยนแปลง สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

    1.สร้างตารางข้อมูลและสูตรการคำนวณโดยฟังก์ชัน =PMT(Rate,Nper,Pv)

    2. พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการวิเคราะห์ 

    3.เลือกช่วงของข้อมูลที่ต้องการทำการวิเคราะห์ (ดังภาพ)


    4.คลิกที่แท็บ Data (ข้อมูล) คลิกเลือกปุ่มคำสั่ง What-If Analysis (การวิเคราะห์แบบ What-if )

    5.คลิกเลือกคำสั่ง Data Table … (ตารางข้อมูล)




    6.จะปรากฏ Dialog Box ของ Data Table (ตารางข้อมูล)ให้คลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการอ้างอิงทั้งแบบแถวและแบบคอลัมน์

    7.คลิกที่ปุ่ม Ok จะได้ผลลัพธ์ที่ดูได้ทั้งสองตัวแปรที่ต้องการเปรียบเทียบคือ ราคาอาคารชุดและอัตราดอกเบี้ย







5.การสร้างตารางข้อมูลเปรียบเทียบตัวแปรหนึ่งตัวแปร


ในการสร้างตารางข้อมูลเปรียบเทียบตัวแปรในกรณีของนางหงส์ฟ้า หากต้องการทราบว่า จะต้องผ่อนชำระค่าอาคารชุดเดือนละเท่าใด หากอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงไป สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  1. สร้างตารางข้อมูลที่ได้มีการคำนวณหาค่าผ่อนชำระรายเดือนด้วยฟังก์ชัน  =PMT(Rate,Nper,Pv) ไว้แล้ว

  2.พิมพ์อัตราดอกเบี้ยและอ้างอิงสูตรการคำนวณ (ดังภาพ)



  3. เลือกช่วงเซลล์ที่ต้องการทำการวิเคราะห์

  4. คลิกแท็บ Data (ข้อมูล) คลิกเลือกปุ่มคำสั่ง What-If Analysis (การวิเคราะห์แบบ What-if)

  5. คลิกเลือกคำสั่ง Data Table… (ตารางข้อมูล)




  6.จะปรากฏDialog Box ของ Data Table (ตารางข้อมูล) โดย

      -ถ้าตารางข้อมูลเป็นแบบจัดตามแถว ให้เลือกอ้างอิงเซลล์แบบ  Row input cell:(ใส่แถวของเซลล์ทที่ใช้)

      -ถ้าตารางข้อมูลเป็นแบบจัดตามแนวคอลัมน์ ให้เลือกอ้างอิงเซลล์แบบ Column input Cell: (ใส่คอลัมน์ของเซลล์ที่ใช้)

  7.คลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงค่าซึ่งจะแสดงผลบนตารางข้อมูล

  8.คลิกปุ่ม OK









4.การลบตัวจัดการสถานการณ์สมมติ

การสร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมุติจะยังคงอยู่ในแผ่นงาน หากผู้ใช้ต้องการที่จะลบทิ้ง

สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  1. คลิกที่แท็บ Data  (ข้อมูล ) คลิกเลือกปุ่มคำสั่ง  What-If (การวิเคราะห์แบบ Whart-if)

  2. คลิกเลือกคำสั่ง Scenario Manager … (ตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ)



  3. จะปรากฏ Dialog Box ของ Scenario Manager (ตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ) คลิกเลือกชื่อสถานการณ์ในกรอบที่ต้องการลบทิ้ง

  4. คลิกที่ปุ่ม Delete เพื่อลบสถารการณ์ที่เลือก

  5. คลิกที่ปุ่ม Close





3.การแก้ไขตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ

       เมื่อผู้สร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมุติแล้ว หากต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงค่าหรือตำแหน่งในการอ้างอิงเซลล์ของแต่ละสถานการณ์ สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

       1.คลิกที่แท็บ Data  (ข้อมูล) คลิกเลือกปุ่มคำสั่ง what-If Analysis  (การวิเคราะห์แบบ  What-if)

       2.คลิกปุ่มคำสั่ง  Scenario Manager… (ตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ)



       3.คลิกเลือกชื่อสถานการณ์ที่ช่อง Scenario (สถานการณ์สมมุติ) ที่ต้องแก้ไข

       4.คลิกที่ปุ่ม  Edit...เพื่อแก้ไขค่าสถานะการที่เลือก


       5.กำหนดการแก้ไขตามที่ผู้ใช้ต้อง



       6. คลิกที่ปุ่ม  Close  หากต้องการออก หรือคลิกที่ปุ่ม Summary…   เพื่อสร้างรายงานสรุปใหม่ 





2.การสร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมติ

 การสร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมติ (Scenario Manager)
      ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงเงื่อนไข   โดยการจำลองสถานการณ์ขึ้นมา เพื่อพยากรณ์ข้อมูลแต่ละตัวบนแผ่นงานที่จะนำไปใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ  ในกรณีที่ผู้ใช้มีข้อมูลจำนวนมากและเปลี่ยนแปลงตาม สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น การสร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมุติจะทำให้ตัวแปรเปลี่ยนไปแล้ว นำมาเก็บไว้ใน Scenario Manager เพื่อที่จะนำไปสร้างรายงานตัวจัดการสถานการณ์สมมุติต่อไป ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

    1.พิมพ์ข้อมูลลงในแผ่นงาน (ดังภาพ )
    2.สร้างสูตรในการคำนวณหาจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือน  ด้วยฟังก์ชัน
= PMT(C4/12,C3*12,C2)ด้วยพิมพ์ลงในเซลล์ C6



    3.คลิกที่แท็บ Data (ข้อมูล) คลิกเลือกปุ่มคำสั่ง  What-If Analysis (การวิเคราะห์แบบ What-if)

    4.เลือกคำสั่ง  Scenario Manager…(ตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ)



    5.จะปรากฏ  Dialog Box  ของ Scenario Manager คลิปที่ปุ่ม  Add…   เพื่อสร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ (ดังภาพ)



    6.จะปรากฏ Dialog Box ของ Edit Scenario(แก้ไขสถานการณ์สมมุติ)

    7.ตั้งชื่อให้สถานการณ์ที่ผู้ใช้สมมุติที่ช่อง Scenario name :(ชื่อสถานการณ์สมมุติ)

    8.คลิกเลือกเซลล์ที่ผู้ใช้ต้องการเปลี่ยนค่าที่ชอบ Changing cells : (เซลล์ที่เปลี่ยน)

    9.คลิกที่ปุ่ม OK



  10.จะปรากฏ Dialog Box ของ Scenario Values (ค่าสถานการณ์สมมุติ) กรอกค่าใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนและคลิกที่ปุ่ม OK



  11.จะปรากฏ Dialog  Box ของ Scenario Manager คลิกที่ปุ่ม  Show  เพื่อแสดงผลที่ได้ของตัวเลือกที่ 1

  12.คลิกที่ปุ่ม  Add…   หรือ เพิ่มพื่อสร้างตัวจัดการสถานการณ์สมมุติเพิ่ม

  

  13.ตั้งชื่อให้สถานการณ์ และคลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการเปลี่ยนค่า

  14.คลิกปุ่ม OK



  15.กรอกค่าไหมที่ต้องการเปลี่ยนและคลิกปุ่ม OK




  16.หากต้องการสร้างรายงานสรุปผลตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ  ให้คลิกปุ่ม Summary… (สรุป) จะปรากฏ Dialog Box ของ Scenario Summary (การสรุปผลสถานการณ์สมมุติ)

คลิกเลือกเซลล์ผลลัพธ์ที่ใช้อ้างอิงที่ได้มีมีการเปลี่ยนแปลงค่าตัวจัดการสถานการณ์สมมุติ คลิกที่ปุ่ม OK















    

วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

1.การค้นหาค่าเป้าหมายโดยการเปลี่ยนตัวแปร (Goal Seek)

การค้นหาค่าเป้าหมายโดยการเปลี่ยนตัวแปร (Goal Seek)

      การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคำสั่ง Goal Seek(การค้นหาเป้าหมาย)เป็นการกำหนดค่าเป้าหมาย ที่ต้องการก่อน จากนั้นจึงสั่งให้โปรแกรมช่วยในการวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนข้อมูลให้เหมาะสมกับ
ค่าเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะเปลี่ยนค่าของข้อมูลไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ด้วยฟังก์ชัน = PMT(Rate,Nper,Pv)ช่วยในการคำนวณ

           Rate    คือ   อัตราดอกเบี้ย

           Nper   คือ  ระยะเวลาในการชำระเงิน

           Pv     คือ  มูลค่าของเงินในปัจจุบัน

ตัวอย่าง นางกัลยาต้องการซื้ออาคารชุดราคา  950,000 บาท โดยวิธีผ่อนชำระ  มีระยะเวลาในการ
ผ่อนชำระ 12 ปีอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี นางกัลยามีความสามารถในการผ่อนชำระได้เดือนละ
5,000 บาท นางกัลยาจะสามารถซื้ออาคารชุดได้ในราคาเท่าไร จึงจะเหมาะสมกับเป้าหมาย 5,000 บาท
ซึ่งสามารถคำนวณได้ดังนี้

    1.พิมพ์ข้อมูลลงในแผนงาน(ดังภาพ)

    2.สร้างสูตรในการคำนวณหาจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือน โดยฟังก์ชัน

= PMT(Rate,Nper,Pv)โดยพิมพ์ลงในเซลล์ C6 ดังนี้




    3.คลิกที่แท็บ Data (ข้อมูล) คลิกเลือกปุ่มคำสั่ง  What-If  Analysis (การวิเคราะห์แบบ What-if)

    4.คลิกคำสั่ง  Goal Seek…(ค้นหาค่าเป้าหมาย)



    5.จะปรากฏ  Dialog Box ของ Goal Seek (ค้นหาค่าเป้าหมาย)การกำหนดค่าเป้าหมายที่ต้องการ 

-                    Set cell : (ตั้งค่าเซลล์) โดยเลือกเซลล์ที่มีสูตร
-                   To value: (ให้เป็นค่า) ใส่ข้อมูลเป้าหมายที่ต้องการ
-                   By changing call : (ด้วยการเปลี่ยนเซลล์)เรื่องเซลล์ที่จะเปลี่ยนแปลงตามค่า

    6.คลิกที่ปุ่ม OK


    7.จะปรากฏ Dialog Box แสดงสถานการณ์วิเคราะห์ที่ได้ คลิกปุ่ม OK





    ผลที่ได้คือ ถ้านางกัลยาต้องการที่จะซื้ออาคารชุดโดยกำหนดผ่อนชำระเดือนละ 5,000 บาทจะต้องซื้ออาคารชุดในราคา604,020 บาท






วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

6.การสร้างแผนภูมิแบบผสม

การสร้างแผนภูมิแบบผสม

การสร้างแผนภูมิแบบผสม คือ การนำเอาแผนภูมิหลายๆ ประเภทมาแสดงในแผนภูมิเดียวกัน เพื่อเน้นข้อมูลในแผนภูมิให้ดูเด่นขึ้น ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

1.คลิกเลือกแผนภูมิที่ต้องการจะเปลี่ยนประเภทจะเกิดจุดเล็กๆที่แท่งแผนภูมิที่เลือก



2.คลิกที่แท็บ Design (ออกแบบ) เลือก Change Chart Type (เปลี่ยนชนิดแผนภูมิชุดข้อมูล)



3.หรือคลิกขวาเลือก Change Series Change (เปลี่ยนชนิดแผนภูมิ)


4.เลือกประเภทหลักและประเภทย่อยของแผนภูมิใหม่ได้ตามต้องการ

5.คลิกที่ปุ่ม OK







4.การเปลี่ยนชนิดของแผนภูมิ

การเปลี่ยนชนิดของแผนภูมิ

1.คลิกเลือกแผนภูมิที่ต้องการเปลี่ยน




2.คลิกที่แท็บ Design (ออกแบบ) เลือกปุ่มคำสั่ง Change Chart Type (เปลี่ยนชนิดของแผนภูมิ) ในกลุ่มของเครื่องมือ Type (ชนิด)




3.จะปรากฏ Dialog Box เพื่อให้เลือกขนิดของแผนภูมิตสมต้องการ

4.คลิกที่ปุ่ม OK

















5.การตกแต่งส่วนต่างๆ ของแผนภูมิ

การตกแต่งส่วนต่างๆ ของแผนภูมิ
ผู้ใช้สามารถที่จะตกแต่งพื้นที่ (Chart Area) ให้กับแผนภูมิได้ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดสีลวดลายหรือรูปภาพ ซึ่งเมื่อมีการปรับเปลี่ยนจะมีผลต่อแผนภูมิทั้งหมด

1.คลิกเลือก Chart Area (พื้นที่ของแผนภูมิ) จะเกิดเป็นกรอบเส้นแผนภูมิ




2.คลิกที่แท็บ Format (รูปแบบ) หรือคลิกขวาเลือก Format Chart Area (จัดรูปแบบพื้นที่แผนภูมิ)




3.คลิกเลือกผุ่มคำสั่ง  Shape Fill (เติมสีรูปแบบ) จะปรากฏตัวเลือกคำสั่งต่างๆ ให้ผู้เลือกการทำงานให้กับแผนภูมิ คือ

- Automatic          (สีอัตโนมัติ)               - More Fill   (สีเติมเพิ่มเติม)

- Theme Colors    (สีของชุดรูปแบบ)      - Picture...   (รูปภาพ)

- Standard Colors (สีมาตรฐาน)               - Gradient   (ไล่ ระดับสี)

- No Fill               (ไม่เติม)                      - Texture     (พื้นผิว)






3.การเคลื่อนย้ายแผนภูมิ



การเคลื่อนย้ายแผนภูมิ

การเคลื่อนย้ายแผนภูมิเป็นการย้ายแผนภูมิจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งที่ผู้ใช้ต้องการสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

1.คลิกเลือกแผนภูมิในส่วนของ Chart Area (พื้นที่แผนภูมิ)

2.คลิกเมาส์ค้างๆว้ แล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการวางแผนภูมิ

3.ปล่อยเมาส์ แผนภูมิก็จะมาอยู่ยังตำแหน่งใหม่ทันที


ต้องใช้เมาส์ดับเปิ้ลคลิก ถึงจะย้ายได้